วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2559

buddhasilapa: เหรียญหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตโต วัดป่าลัน รุ่นแรก



เหรียญหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต วัดอรัญญวิเวก(ป่าลัน) รุ่นแรก 

โดย...ชายนำ ภาววิมล...


       นักนิยมพระเครื่องที่เริ่มศึกษาและสะสมพระเครื่องในช่วงระหว่างปี ๒๕๑๗ – ๒๕๒๗ คงพอจำได้ว่ายุคนั้น ไม่มีพระเกจิอาจารย์รูปใดที่มีการสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลรูปแบบต่างๆมากเท่ากับหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ พระอริยสงฆ์แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เป็นปูมหลังในการสร้างพระหลวงปู่แหวน สุจิณโณ มีทั้งบวกและลบคละเคล้ากันไป สุดแล้วแต่ว่าใครจะมองหรือให้ความสนใจกับด้านใดด้านหนึ่งของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในวิถีแห่งการบำเพ็ญเพียรของพระอริยสงฆ์อย่างหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่คนส่วนหนึ่งเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า “ท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์” การอธิษฐานจิตแผ่เมตตาให้กับพระเครื่องและวัตถุมงคลชุดต่างๆ ที่มีผู้ขอสร้างและนำไปให้ท่านอธิษฐานจิตแผ่เมตตา ล้วนเป็นกิจที่พระอริยสงฆ์ทั้งหลายกระทำไปด้วยเมตตาธรรมที่ยากจะหาสิ่งใดมาเปรียบได้ แม้ในยามอาพาธ พระอริยสงฆ์เหล่านั้นยังเมตตาทำให้โดยมิได้คำนึงถึงสังขารของตน กระทั่งลูกศิษย์ที่ปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดจำต้องรับบทหนักในการจัดระเบียบ เพื่อให้พระอริยสงฆ์เหล่านั้นได้พักผ่อนตามเหตุจำเป็นที่มาจากความเสื่อมโทรมและอ่อนล้าของสังขาร เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบั้นปลายชีวิตของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ก็เป็นเช่นนั้น พระที่ได้รับมอบหมายปรนนิบัติรับใช้ท่านจำต้องรับหน้าเสื่อในการลดกิจอันเป็นการละเมิดสิทธิการพักผ่อนของพระอริยสงฆ์ในห้วงเวลาที่ท่านใกล้จะละสังขารไปในไม่อีกไม่กี่เพลาข้างหน้า และนี่คือที่มาของความขัดแย้งที่ทำให้พระผู้ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่แหวน สุจิณโณ พึงต้องออกจากวัดดอยแม่ปั๋ง หลังจากที่หลวงปู่แหวน สุจิณโณ มรณภาพไปแล้ว ด้วยเหตุที่ไปทักท้วงและขัดขวางมิให้นำพระเครื่องชุดหนึ่งเข้าไปให้หลวงปู่แหวน สุจิณโณ อธิษฐานแผ่เมตตา ก่อนที่หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ละสังขารเพียงไม่กี่วัน พระที่ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่แหวน สุจิณโณ จนถึงวินาทีสุดท้ายคือหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตโต  เจ้าอาวาสวัดอรัญญวิเวก (ป่าลัน) ต.ปงน้อย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย



       หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตโต  เป็นคนพื้นเพเดียวกับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ คือ เป็นคนจังหวัดเลยเหมือนกัน ตามหนังสือชีวประวัติที่ท่านคณะศิษยานุศิษย์จัดพิมพ์ขึ้นเมื่อปี ๒๕๔๗ ระบุว่า หลวงพ่อทวี จิตฺตคุโต มีนามเดิมว่า “ทวี สุรสิงห์” เป็นลูกชายคนโตของนายดี สุรสีห์ กับนางบัวผัน มะลิเวิน ถือกำเนิดวันจันทร์ที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ที่บ้านสูบ ต.น้ำสรวย อ.เมือง จ.เลย  พอเกิดมา ท่านร้องไห้ตลอดเวลา จนโยมแม่ของท่านต้องอุ้มไปหาหมอ หาไปหลายแห่งก็ยังไม่หายจากอาการร้องไห้ตลอดเวลา นึกขึ้นมาได้ว่าก่อนตั้งครรภ์ เคยฝันเห็นคนแก่คนหนึ่งนำช้างดอมาให้ (ช้างดอ คือ ช้างตัวผู้ที่ไม่มีงา) แล้วพูดว่า“อีนางเอย พ่อจะให้ช้างตัวนี้แก่เจ้าเน้อ ให้เจ้าจงรักษาเอา” โยมแม่ของท่านจึงตั้งจิตอธิษฐานว่า“ลูกชายคนนี้จะให้บวชอยู่ในพระบวรพุทธศาสนา” พออธิษฐานจิตจบลง เด็กน้อยก็หยุดร้องไห้ทันที และคืนนั้น นางบัวผัน มะลิเวิน นิมิตเห็นลูกชายคนโตว่าไปนั่งอยู่ในป่าขมิ้นเหลืองอร่ามไปหมด และลูกน้อยของนางก็หยุดร้องไห้ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา

         นี่กระมังที่ฝรั่งเขาเรียกว่า“Born to be”  หรือเกิดมาเพื่อรับใช้พระบวรพุทธศาสนาโดยแท้ ชีวิตในวัยเด็กของหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต วนเวียนอยู่กับความคิดที่จะบวชเรียนอยู่เสมอๆ บางครั้งก็เก็บไปฝันเห็น “พระรูปหนึ่งมาทางทิศตะวันตกของบ้าน ท่าทางเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแลน่าเลื่อมใสยิ่งนัก กระต๊อบที่พระรูปนั้นอาศัยจำพรรษาตั้งงอยู่หัวทางที่ท่านเดินจงกรม ในนั้น มีหนังสือพระไตรปิฎก ๓ เล่ม วันธรรมดา พระรูปนั้น มักเดินออกไปบิณฑบาตที่ในป่า เว้นแต่วันพระที่เดินมาบิณฑบาตในหมู่บ้าน กลับจากบิณฑบาตแต่ละครั้ง ในบาตรมีแต่ใบไม้ผลไม้ มีกลิ่นหอมมาก ทำให้หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต คิดอยากทานใบไม้ผลไม้ที่พระรูปนั้น บิณฑบาตมาบ้าง” ตื่นเช้าขึ้นมา ก็เล่าให้เล่าให้พ่อเลี้ยงฟัง(โยมพ่อของหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต เสียชีวิตตั้งแต่ท่านมีอายุได้ ๖ - ๗ ขวบ ต่อมาโยมแม่ของท่านได้แต่งงานใหม่กับนายแก่น บุดดา และย้ายไปอยู่ที่ อ.เชียงคาน) พ่อเลี้ยงของท่านบอกให้สอบไล่ได้เสียก่อน แล้วจะพาไปอยู่กับอา แต่พ่อเลี้ยงของท่านก็มาด่วนเสียชีวิตไปก่อน โยมแม่ของท่านจึงย้ายครอบครัวกลับมาอาศัยอยู่กับตายายของท่านที่บ้านสูบตามเดิม

          ในปี ๒๕๐๐ ตอนนั้น หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต อายุได้ ๑๗ ปี โยมตาและโยมแม่ของท่านได้ข่าวว่ามีพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาอยู่ถ้ำผาปู่ บ้านนาอ้อ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโยมแม่ จึงพากันไปกราบนมัสการพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปนั้น พระภิกษุรูปนั้น คือ “หลวงปู่คำดี ปภาโส” เมื่อฟังเทศน์ของหลวงปู่คำดี ปภาโส แล้ว เกิดความซาบซึ้งในคำสอนของหลวงปู่คำดี ปภาโส โยมตา โยมแม่ และญาติของท่าน จึงหาสถานที่สร้างวัดและนิมนต์หลวงปู่คำดี ปภาโส มาอยู่ที่กุฏิชั่วคราวที่ทุกคนช่วยกันสร้างขึ้น จากนั้นโยมแม่ของหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต จึงส่งท่านให้มาปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่ดี ปภาโส การปรนนิบัติรับใช้พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบครั้งนี้ ทำให้หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต มีศรัทธาที่จะบวชมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสบช่องได้โอกาส ก็เล่าความฝันเมื่อตอนเด็กและถามว่าทำอย่างไรจึงจะได้บวช หลวงปู่คำดี ปภาโส พูดเปรยๆ ว่า “เด็กคนนี้ มีอุปนิสัยในพระพุทธศาสนา” และให้ไปขออนุญาตจากโยมแม่เสียก่อน หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต จึงได้บรรพชาเป็นสามเณรและศึกษาพระธรรมอยู่กับหลวงปู่คำดี ปภาโส จนกระทั่งออกพรรษาไปแล้วประมาณ ๒ – ๓ เดือน ก็มีเหตุจำเป็นที่ท่านต้องลาสิกขาบทออกไปประกอบการงานเพื่อเลี้ยงดูโยมแม่ของท่านที่ได้รับความลำบากทุกข์ยากในเพลานั้น

         พออายุได้ ๒๒ ปี ก็ถึงกาลเวลาที่หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต ต้องกลับมาบวชอีกครั้ง ในวันหนึ่ง ท่านออกไปนอนที่ไร่และฝันไปว่า “พระอริยสงฆ์รูปหนึ่งเข้ามาที่ไร่นั้น หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต เข้าไปกราบนมัสการแล้วขอรับบริขารของท่านเพื่อที่จะนิมนต์พระอริยสงฆ์รูปนั้นให้ขึ้นไปที่กระต๊อบในไร่ พระอริยสงฆ์รูปนั้นกล่าวกับท่านว่า เธอจะบวชไหม ถ้าเธอไม่บวช เราก็จะไม่ให้รับบริขารนี้เป็นอันขาด หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตโต ตอบไปว่า กระผมจะบวชขอรับ พระอริยสงฆ์รูปนั้นจึ่งยื่นบาตรและบริขารให้ท่าน แล้วก็หายตัวไปในทันที” ความฝันนี้ ทำ ให้หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตโต ครุ่นคิดที่จะบวชอยู่ตลอดเวลาเพราะน้องๆ ก็โตมีครอบครัวและสามารถดูแลโยมแม่ของท่านได้แล้ว ในช่วงเวลานั้น โยมป้าต้องการให้ท่านมีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ทั้งหมายหมั้นสาวหนึ่งให้กับท่านแล้ว หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต ไปปรึกษาโยมแม่ก็ถามว่าท่านรักหญิงสาวนั้นไหม ถ้ารักก็ให้แต่ง แต่ขอให้บวชเรียนเสียก่อน ทั้งเล่าเรื่องในอดีต เรื่องที่ท่านเกิดมาแล้วร้องไห้ไม่หยุด มาหยุดเอาตอนตั้งจิตอธิษฐานให้ลูกชายคนนี้บวชเมื่อเติบใหญ่ เมื่อได้ยินเรื่องราวต่างๆแล้ว ท่านจึงตัดสินใจว่าจะบวชและไม่ติดต่อกับป้าและหญิงสาวนั้นอีกเลย

          ในพรรษาปีนั้น พระอาจารย์จันทร์ดา กสฺสโป  ไปจำพรรษาที่บ้านสูบ พอสิ้นพรรษาและหมดกฐินแล้ว จึงธุดงค์ต่อไปที่จังหวัดขอนแก่น หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต ติดตามพระอาจารย์จันทร์ดา กสฺสโป มาอุปสมบทที่พระอุโบสถวัดศรีจันทร์ ในวันที่ ๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๕ โดยมี พระวินัยสุนทรเมธี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูศรีธรรมาลังการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาศรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีต้นสังกัดอยู่ที่วัดป่าวิเวกธรรมเหล่างา ต.พลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่ออุปสมบทแล้ว เริ่มออกธุดงค์ตั้งแต่พรรษาแรกและได้พบเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย กระทั่งปลายปี ๒๕๐๙ พระอาจารย์หนู สุจิตโต เจ้าอาวาสวัดดอยแม่ปั๋ง ชักชวนให้ท่านไปกราบนมัสการหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่วัดดอยแม่ปั๋ง เมื่อได้สนทนากันแล้ว หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ถามพระอาจารย์หนู สุจิตโต ว่าจะเอาทวีไปไว้กุฏิไหน พระอาจารย์หนู สุจิตโต จึงให้ไปอยู่ที่กุฏิหลังหนึ่ง พร้อมทั้งพูดว่าให้ทดลองว่าจะอยู่ได้หรืออยู่ไม่ได้  เมื่อมาอยู่ที่กุฏินี้ มีเหตุนิมิตหลายเรื่องที่ทำให้หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตโต ต้องตรึกตรองว่าจะอยู่ในพระบวรพุทธศาสนาได้หรือต้องหมดวาสนาเพียงแค่นี้ ตรองแล้วจึงขออนุญาตหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ออกธุดงค์ไปที่ป่าเมี่ยง แม่สาย หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เมตตาชี้แนะหลายประการที่เป็นประโยชน์ต่อการเดินธุดงค์ครั้งนี้ และพูดตบท้ายว่า “จะไปก็ไปเสียก่อน อยากจะกลับแล้วค่อยมาทีหลัง”

         ที่ป่าเมี่ยงแม่สาย หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตโต บำเพ็ญเพียรต่อสู้เอาชนะกิเลสจนมีพลังจิตแก่กล้าขึ้นกว่าเดิมมาก จากนั้นเดินทางต่อไปที่จันทร์บุรีเพื่อกราบนมัสพระอาจารย์บุญจันทร์ อาจารย์ของท่านอีกรูปหนึ่ง และในปี ๒๕๑๒ หรือพรรษาที่ ๗ เดินทางกลับมาปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่วัดดอยแม่ปั๋งอีกครั้งหนึ่ง กลับมาคราวนี้ หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตโต อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่แหวน สุจิณโณ จนถึงวันที่หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ละสังขารไปในปี ๒๕๒๘ จากนั้น หลวงพ่อทวี จิตฺตคุโต ก็ปลีกวิเวกหลีกความขัดแย้งในวัดดอยแม่ปั๋งไประยะหนึ่ง แล้วจึงรับนิมนต์จากญาติโยมให้มาจำพรรษาที่วัดอรัญญวิเวก (ป่าลัน) เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

      วัดอรัญญวิเวก (ป่าลัน) ต.ปงน้อย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย ในทุกวันนี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่ง ที่เชื่อกันว่าวัดนี้มีพญานาคสองตนดูแลปกปักรักษาอยู่ จริงไม่จริง เชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ไม่ควรไปลบหลู่หรือลองดีกับสิ่งที่มองไม่เห็น เพราะมีคนที่ลองของและเจอดีมาแล้ว ภิกษุรูปใดที่ไม่มีศีลบริสุทธิ์และมีจริยาวัตรงดงามก็ยากที่จะครองวัดแห่งนี้ได้ นับแต่วันที่หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต ครองวัดอรัญญวิเวก มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ทุกวันพระจะมีพระธาตุต่างๆ ลอยมาหาท่านเป็นจำนวนมาก มากจนกระทั่งท่านตั้งสร้าง “พระมหาธาตุเจดีย์ ๙ มงคลเหนือสุดสยาม” ขึ้นมาเพื่อประดิษฐานพระธาตุทั้งหมดที่ท่านได้มาโดยอัศจรรย์ พระมหาธาตุเจดีย์ฯ นี้ เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๐ และทำพิธีฉลองเมื่อวันที่ ๑๘ – ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑ หากมิใช่บารมีของหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต พระมหาธาตุเจดีย์ฯ นี้ คงไม่เสร็จในเร็ววัน จากนั้น ในปี ๒๕๕๔ หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต ก็เริ่มสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ แล้วเสร็จและเพิ่งฉลองไปในระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๕ มีนาคม ที่ผ่านมานี้


พื้นที่ก่อนก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์


หลุมเสาเอกพระมหาธาตุเจดีย์


     ในด้านพระเครื่องและวัตถุมงคล ก่อนหน้าที่ท่านตัดสินใจสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ ๙ มงคลเหนือสุดสยาม บรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายเรียกร้องให้ท่านสร้างเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ท่านปฏิเสธเรื่อยมา กระทั่งคณะศิษย์จากกรุงเทพมหานครกลุ่มหนึ่งขึ้นมากราบนมัสการและรับเป็นเจ้าภาพในการทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อหาปัจจัยสมทบทุนสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ฯ ท่านจึงได้อนุญาตให้คณะศิษย์ฯ คณะนี้ จัดสร้างเหรียญและพระผงรูปเหมือนรุ่นแรกขึ้นในปลายปี ๒๕๔๘ เพื่อเป็นที่ระลึกในการทอดผ้าป่าสามัคคีและหาจตุปัจจัยสมทบทุนสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ฯ เหรียญและพระผงรูปเหมือนเนื้อว่าน รุ่นแรกนี้ มีจำนวนการสร้าง ดังนี้ 

           ๑) เหรียญทองคำ ๕ เหรียญ 



           ๒) เหรียญนาค ๔ เหรียญ 
           ๓) เหรียญเงินลงยา ๑๙ เหรียญ 
           ๔) เหรียญนวโลหะ ๑๙ เหรียญ 



           ๕) เหรียญทองแดงรมดำ ๖,๐๐๐ เหรียญ 



           ๖) พระผงรูปเหมือนเนื้อว่าน(ลักษณะเดียวกับเหรียญรุ่นแรก)จำนวน ๒,๐๐๐ องค์







         เหรียญและพระผงรูปเหมือนเนื้อว่าน รุ่นนี้ หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว และนำออกมาแจกหรือมอบให้ผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ฯ จนหมดจากวัดในเวลาไม่นานนัก ปัจจุบันเป็นเหรียญที่นิยมเล่นหาสะสมกันในระดับท้องถิ่น/หมู่ลูกศิษย์ สนนราคาเช่าหาในพื้นที่แตะหลักพันไปแล้ว เว้นเหรียญทองคำ นาค เงินลงยา และนวโลหะ ที่หายากสุดๆ ประเภทมีเงินก็หาไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะไปเสาะแสวงหาจากที่ใด ส่วนเหรียญทองแดงรมดำและพระผงรูปเหมือนเนื้อว่าน ยังพอหาได้ไม่ยากนัก

ภาพหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตโต ในวันทอดผ้าป่าสามัคคีฯ

1 ความคิดเห็น:

  1. ผมไปกราบท่านตั้งแต่ปี 2516 พร้อมกับคุณแม่โสภี อินทรทัตและภริยา อยากติดต่อทางโทรศัพท์มือถือของท่านแต่ไม่ทราบเบอร์ครับ ใครทราบช่วยบอกท่านด้วย เบอร์ผม 023858197

    ตอบลบ