วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559

buddhasilapa: พระขุนแผนเนื้อผงยาจินดามณีและกุมารทองมีสุข หลวงปู่สุข สุขเปโม วัดป่าหวาย


พระขุนแผนเนื้อผงยาจินดามณีและกุมารทองมีสุข หลวงปู่สุข สุขเปโม วัดป่าหวาย สิงห์บุรี

โดย.......ชายนำ ภาววิมล.......


       การสะสมพระเครื่องและวัตถุมงคลในทุกวันนี้ มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อวันวานมากมายหลายด้าน จากความเชื่อแบบดั้งเดิมที่ว่านักนิยมพระเครื่องเป็นคนยุคเก่าที่ตามโลกเทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่ทัน ตอนแรกๆ ก็น่าจะเป็นอย่างที่เขาว่ากัน แต่ทุกวันนี้ ไม่ได้เป็นอย่างที่คนรุ่นเก่าๆ บางกลุ่มบางคนเชื่อกันเสียแล้ว ความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีการผลิตและระบบอินเตอร์เน็ตทำให้แนวทางการเล่นหาสะสมพระเครื่องเปลี่ยนไปในลักษณะที่ว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ว่าได้ เหรียญรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความนิยมและเล่นหากันในวงกว้าง ต้องเป็นเหรียญที่มีพุทธศิลป์ในแนวเดียวกับประติประติมากรรมเทพเจ้าคือ “คมชัดและเหมือนจริง” สมัยก่อนเป็นข้อจำกัดทางเทคนิคที่มือมนุษย์ไม่สามารถทำได้ วินาทีนี้ เทคโนโลยีสามารถกำจัดจุดอ่อนที่เป็นข้อจำกัดทางเทคนิคไปเกือบหมด เหรียญรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ที่สวยงาม คมชัดเหมือนจริง ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้กรรมวิธีแกะแม่พิมพ์ด้วยมือเหมือนอย่างที่เคยทำกันเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ปรากฏการณ์จตุคามรามเทพเป็นจุดเปลี่ยนที่นักสร้างหันมาใช้วิธีการปั้นหุ่นสีผึ้งเพื่อนำมาเป็นต้นแบบในการแกะแม่พิมพ์เหล็กโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้เหรียญรูปเหมือนที่มีความสวยงามมาก สวยมากจนนักนิยมพระใหม่ลืมเรื่องพิธีกรรมไปเลย ทั้งๆ ที่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา การสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลส่วนใหญ่ แข่งกันที่พิธีกรรมว่าใครจัดใหญ่กว่ากัน จัดกันกี่วาระ ใครจัดได้พิสดารกว่ากัน เล่นเอาเจ้าพิธีทั้งหลายรวยอู้ฟู่ไปตามๆ กัน มาวันนี้ เขาขายชื่อช่างกันแล้ว ก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน ช่างแกะบล็อกพระฝีมือดีจะได้มีเกียรติยศชื่อเสียงในสังคมเหมือนวิชาชีพอื่นๆ กันเสียที



      สิ่งที่ขาดหายไปในกระบวนการจัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลยุคนี้ เป็นสาระสำคัญที่ทำให้ความเป็นวัตถุมงคลเสื่อมถอยลงไปมาก ความงดงามเป็นเงื่อนไขหลักที่ทำให้เกิดคุณค่าทางด้านการสะสมศิลปวัตถุที่เกี่ยวเนื่องกับพุทธศาสนา ความเป็นวัตถุมงคลตามความเชื่อที่มีมาแต่โบราณกาล มิได้เกิดขึ้นจากความสวยงามทางด้านศิลปะ แต่ขึ้นอยู่กับพิธีกรรมที่ถูกต้องตามข้อกำหนดสำคัญที่มีมาแต่โบราณกาล พระเครื่องและวัตถุมงคลที่นักนิยมพระเครื่องรุ่นเก่าๆ เขายอมรับและเล่นหากันอย่างกว้างขวางนั้น มีเกณฑ์การพิจารณา ๕ ประการ คือ 
           ๑) คุณลักษณะ/ปฏิปทาของพระเกจิอาจารย์ 
           ๒) เจตนาการสร้าง 
           ๓) เนื้อหามวลสาร
           ๔) พิธีกรรม 
           ๕) ความน่าเชื่อถือของคณะผู้จัดสร้าง 
       หากขาดข้อใดข้อหนึ่ง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่วงการพระใหม่ในยุคก่อนจะให้การยอมรับและเล่นหากัน



        ย้อนกลับมาที่วัตถุมงคลชุด"จินดามณี มีสุข" ของ หลวงปู่สุข สุขเปโม วัดป่าหวาย ตำบลโรงช้าง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ที่จัดสร้างขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายในการหาปัจจัยสมทบทุนบูรณะพระอุโบสถวัดป่าหวายที่ชำรุดทรุดโทรมมาแต่ครั้งน้ำท่วมเมื่อปี ๒๕๕๔ และเป็นค่าใช้จ่ายในกิจกรรมของวัดป่าหวายตามที่หลวงปู่สุข สุขเปโม เห็นสมควร พระเครื่องและวัตถุมงคลที่จัดในวาระนี้ มี ๔ รายการ ประกอบด้วย 

         ๑) พระขุนแผนผงยาจินดามณี หลังปั๊ม “มีสุข” ฝังตะกรุดเงิน จำนวน ๑๐๐๐ องค์ 




        ๒) กุมารมีสุข(กุมารทองสายเทพ ไม่มีส่วนผสมของภูตใดๆ ทั้งสิ้น) มี ๓ เนื้อคือ เงิน ๑๙ ตน นวโลหะ ๑๘ ตน เนื้อทองสุก ๘๐๐ ตน 




         ๓) ตะกรุดมงคลจักรวาล ๘๖ ดอก มีทั้งตะกั่วและทองแดง 



         ๔) ยาเม็ดจินดามณี 



      หลวงปู่สุข สุขเปโม เป็นพระสุปฏิปันโนที่มีความเป็นเกจิอาจารย์อย่างแท้จริง หากมองอย่างผิวเผิน ท่านเป็นพระที่รักสันโดษ ครองตนแบบเรียบง่าย พูดน้อย แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำพิธีกรรมต่างๆ หลวงปู่สุข สุขเปโม แสดงให้เห็นว่าท่านมีภูมิความรู้ในศาสตร์ต่างๆ ที่ท่านร่ำเรียนมาจากพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าหลายสำนัก มิได้เป็นแค่การกำหนดจิตหรืออธิษฐานจิตแผ่เมตตาตามแบบอย่างของพระเกจิอาจารย์ที่มุ่งเน้นบุญฤทธิ์เพียงด้านเดียว แม้การจัดสร้างวัตถุมงคลชุด "จินดาณี มีสุข” หลวงปู่สุข สุขเปโม ได้ตัวช่วยอย่างอาจารย์สีหวัชร ซึ่งเป็นฆราวาสที่มีความรอบรู้และสั่งสมประสบการณ์ด้านพุทธไสยเวทย์มาอย่างช่ำชอง แค่อธิษฐานจิตแผ่เมตตาอย่างเดียวก็เกินพอแล้ว ในพิธีการกดพิมพ์พระขุนแผนเนื้อผงยาจินดามณีต่อหน้าพระพักตร์หลวงพ่อทองคำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดป่าหวาย อาจารย์สีหวัชรจัดเตรียมของสิ่งทุกทุกอย่างให้หลวงปู่สุข สุขเปโม ตามแบบอย่างการจัดสร้างพระผงยาจินดามณีซึ่งเป็นตำรับที่สืบสายมาแต่ครั้นท่านเจ้าคุณพรหม วัดกัลยาณมิตร  เมื่อได้เวลาตามฤกษ์ยามที่กำหนด หลวงพ่อสุข สุขเปโม จุดธูปเทียนบูชาหลวงพ่อทองคำเสร็จแล้ว หันมาถามว่าให้ท่านทำอะไรบ้าง คุณมนตรี แก้วพิจิตร กระซิบบอกท่านให้เขียนยันต์ อธิษฐานจิตปลุกเสกผงยาจินดามณีที่จัดวางบนถาดใบใหญ่ หลวงปู่สุข สุขเปโม ใช้นิ้วชี้เขียนยันต์ตามสูตรการทำผงอิทธิเจซึ่งเป็นผงที่มีพลานุภาพทางด้านเมตตามหานิยมสูงมาก เมื่อได้รูปยันต์แล้ว ก็ทำพิธีลบผงฯ อธิษฐานจิตปลุกเสกผงยาจินดามณีเป็นเวลาประมาณ ๑๐ กว่านาที จากนั้น ส่งมอบถาดผงยาจินดามณีให้อาจารย์สีหวัชรคลุกเคล้าและนวดผงยาโดยใช้น้ำผึ้งและน้ำมะเขือขื่นเป็นตัวประสาน






       ระหว่างที่อาจารย์สีหวัชรผสมเนื้อผงยาจินดามณี หลวงปู่สุข สุขเปโม ลงแผ่นทองคำและแผ่นเงินเพื่อนำมาบรรจุไว้ทางด้านหลังของพระขุนแผน จากนั้นลงยันต์อีก ๕ แผ่นเพื่อนำไปเป็นชนวนหล่อกุมารมีสุข เมื่ออาจารย์สีหวัชรคลุกเคล้าเนื้อยาจินดามณีจนได้ที่ หลวงปู่สุข สุขเปโม กดพิมพ์พระขุนแผนฝังตะกรุดทองคำด้วยมือของท่านเอง ๕ องค์ (หลวงปู่สุข สุขเปโม ประสิทธิ์ประสาทพระขุนแผนชุดนี้ให้อาจารย์สีหวัชร, คุณมนตรี แก้วพิจิตร, คุณไกรสร มีสมบัติ, ผู้เรียบเรียง ในพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๗) จากนั้น มอบหมายให้ผู้เรียบเรียงและคุณไกรสร มีสมบัติ ทำการกดพิมพ์พระขุนแผนและพระนางกวักไปเรื่อยๆ จนเนื้อผงยาที่อาจารย์สีหวัชรคลุกเคล้าหมด ได้พระขุนแผนเนื้อผงยาจินดามณีฝังตะกรุดทองคำ ๒๘ องค์ นางกวักประมาณ ๒๐ กว่าองค์ ระหว่างที่ผู้เรียบเรียงและคุณไกรสร มีสมบัติ กดพิมพ์พระขุนแผนอยู่นั้น หลวงปู่สุข สุขเปโม เพ่งมองการกดพิมพ์พระทั้งหมดด้วยความสนใจ ดูเหมือนท่านจะชอบยาจินดามณีมาก หลังจากกดพิมพ์เสร็จแล้ว ท่านให้โยงสายสิญจน์ไปยังถาดพระขุน แผนและนางกวักที่เนื้อยังหมาดๆ อยู่ อธิษฐานจิตปลุกเสกอีกครั้งเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง







       ในส่วนของ“กุมารมีสุข” แม้เป็นกุมารทองที่หล่อจากโรงงานในกรุงเทพมหานคร แต่หลวงปู่สุข สุขเปโม ลงแผ่นยันต์ตามตำรับที่ท่านได้ศึกษาเรียนรู้มาจากหลวงปู่ศรี อมโร วัดหนองมน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี จนเชี่ยวชาญ จำนวน ๕ แผ่นและสั่งให้นำผงอิทธิเจของท่านไปบรรจุที่ใต้ฐานกุมารมีสุข นอกจากนั้นอาจารย์สีหวัชรนำผ้ายันต์กุมารของหลวงปู่สุข สุขเปโม ที่ลูกศิษย์ลูกหาในจังหวัดสิงห์บุรีหวงแหนกันมาก เพราะมีประสบการณ์ด้านการคุ้มครองป้องกัน ช่วยดูแลรักษาบ้านเรือนมากมาย มาถอดรหัสและลงแผ่นยันต์อีกชุดหนึ่งซึ่งเป็นยันต์สำหรับการสร้างกุมารทองและพยนต์โดยเฉพาะ กุมารมีสุขชุดนี้ จึงเป็นกุมารในสายเทพที่ไม่มีพิษภัยเนื่องจากไม่มีส่วนผสมของภูตผีปีศาจใดๆ ทั้งสิ้น ที่สำคัญยิ่งและเป็นเคล็ดวิชาที่ไม่ค่อยมีใครยอมเปิดเผยกันง่ายๆ คือ มวลสารสำคัญที่ใช้ในการสร้างร่าง เคล็ดวิชานี้ อาจารย์สีหวัชรบอกว่า เป็นเคล็ดวิชาที่คล้ายคลึงกับการชุบชีวิตนาจา มวลสารสำคัญ คือ “ดอกบัว” ดอกบัวที่ว่านี้ มิใช่ดอกบัวธรรมดาที่มีอยู่ทั่วไปแต่ต้องเป็นดอกบัวพิเศษ เป็นดอกบัวแฝดที่หาได้ไม่ง่ายนัก เมื่อได้มาแล้วก็ต้องอาศัยสรรพวิชาด้านการสร้างกุมารและพยนต์ในการปรุงแต่งให้เป็นมวลสารหลักในการสร้างกุมาร มวลสารทั้งหมดนี้ หลวงปู่สุข สุขเปโม ทำพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกอีกครั้งก่อนมอบให้อาจารย์สีหวัชร และผู้เรียบเรียงไปดำเนินการต่อไป การหล่อกุมารมีสุขก็เป็นไปตามฤกษ์ยาม/พิธีกรรม (บวงสรวง) ที่อาจารย์สีหวัชรกำหนด 


       ก่อนพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยววัตถุมงคลทั้งหมดในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ หลวงปู่สุข สุขเปโม ทำพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกกุมารมีสุขเป็นปฐมฤกษ์ในวันที่ ๑ ธันวาคม และอธิษฐานปลุกเสกตามโอกาสและเวลาอันควรในระหว่างวันที่ ๑ – ๙ ธันวาคม ตอนที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกกุมารมีสุขเป็นปฐมฤกษ์เสร็จ วันนั้น นึกคะนองขึ้นมาเลยสัพยอกหลวงปู่สุข สุขเปโม ว่า “เป็นไหงบ้างครับ...หลวงพ่อ กุมารมาหาหรือปล่าว” ท่านยิ้มและหันมามองหน้าผู้เรียบเรียงและ สัพยอกกลับว่ามา เขามาทักทาย เท็จจริงเป็นอย่างไร ผู้เรียบเรียงไม่มีภูมิพอที่จะรับรู้ความจริงได้ คิดแต่ว่าเป็นการสัพยอกหลวงปู่สุข สุขเปโม และท่านเมตตาเล่นด้วย แต่ลึกๆ แล้ว ก็มีความเชื่อมั่นว่า “กุมารมีสุข” ของหลวงปู่สุข สุขเปโม ไม่ธรรมดาแน่นอน สิ่งที่เคยประสบพบเหตุและนำเสนอในพระเกจิคือ นำผ้ายันต์กุมารของหลวงปู่สุข สุขเปโม มาถ่ายรูปเพื่อลงหนังสือพระเกจิ วางผ้ายันต์อยู่ตรงหน้าแท้ๆ ก็ยังหาไม่เจอ ต้องเดินไปอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะที่ตั้งกล้องถ่ายรูป ถึงเห็นผ้ายันต์ที่วางตรงหน้า ตอนถ่ายภาพกุมารมีสุขเหมือนกัน วางกล่องกุมารมีสุขข้าง Copy Stand แล้วเดินไปชงกาแฟ กลับเข้ามามองหากุมารมีสุขไม่พบ เลยพูดขึ้นมาว่า ...เล่นซ่อนหาอีกแล้ว... พูดจบกวาดสายตามองรอบๆ โต๊ะ อยู่ตรงหน้าเหมือนเดิม ก็สนุกดีเหมือนกัน


       พิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ จัดว่าเป็นพิธีที่มีนิมิตหมายที่ดีหลายประการ นิมิตที่ดีไม่จำเป็นต้องมีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติให้เห็นบ่อยๆ เรื่องนี้หลายๆ คนเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าต้องมีพระอาทิตย์ทรงกรด มีปรากฏการณ์ที่เรียกว่าสุริยันจันทรา เห็นแสงสีต่างๆ ปรากฏในม่านตาของคนร่วมพิธีที่นั่งสมาธิเป็นประจำ โดยเฉพาะนิมิตที่เกี่ยวเนื่องกับฤกษ์ที่ให้ผลทางด้านเมตตามหานิยม ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติบางอย่างที่เชื่อถือกัน อาจเป็นอุบาทว์ใดอุบาทว์หนึ่งในอุบาทว์ทั้งแปดประการก็ได้ แต่นิมิตที่เกิดขึ้นกับพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกพระขุนแผนผงยาจินดามณีและกุมารมีสุข ซึ่งกระทำการขึ้นเพื่อหวังผลทางเมตตามหานิยม เป็นเรื่องที่มีกลุ่มคนหลายคณะเดินทางมากราบนมัสการหลวงปู่สุข สุขเปโม ช่วงก่อนพิธีฯ ไม่นานนักและระหว่างที่หลวงปู่สุข สุขเปโม กำลังอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลต่อหน้าพระพักตร์หลวงพ่อทองคำ ปกติ หลวงปู่สุข สุขเปโม ใช้เวลาในการอธิษฐานจิตปลุกเสกประมาณครึ่งชั่วโมงถึงสี่สิบห้านาที แต่วันนี้ท่านเสกนานเกือบชั่วโมงครึ่ง มีคนแถวเยาวราชเดินทางมากลับนมัสการหลวงพ่อจรัล ที่วัดอัมพวัน แล้วแวะมาเช่าบูชาวัตถุมงคลที่วัดป่าหวายเป็นเงินร่วมหมื่นบาท เขานั่งคอยหลวงปู่สุข สุขเปโม จนกระทั่งพิธีเสร็จ เลยโชคดีได้ขุนแผนผงยาจินดามณีฝังตะกรุดเงินกับนางกวักไปคนละองค์ ปิดท้ายด้วยการบูชาตะกรุดกำแพงจักรวาลไปอีกหลายดอก อย่างนี้...ซิ นิมิตที่ดี นิมิตที่จับต้องได้ อีกสิ่งหนึ่งคือน้ำตาเทียนในบาตรน้ำมนต์ที่หยดลงมาตลอดเวลาที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสก ปรากฏเป็นรูปคล้าย “ส” มองอีกที เหมือนมี “สระอุ” อยู่ใต้ตัว “ส” รวมกันเป็น “สุ” สุแปลว่าดี เมื่อคิดว่าดี ทุกอย่างมันก็ดี




       เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากพิธีกรรมที่เริ่มต้นจากการเตรียมผงยาและกดพิมพ์พระ การเขียนผงลบผง การลงแผ่นยันต์ พิธีกรรมและปรากฏการณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นและเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้รูปพระเครื่องและวัตถุมงคลแต่ละอย่างสำเร็จขึ้นเป็นวัตถุมงคลที่ทรงคุณค่าและเป็นส่วนหนึ่งที่คอยปกปักรักษาให้ผู้ที่นำไปสักการบูชาแคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ นานา เกื้อหนุนให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองได้อย่างไม่น่าถือ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นอีกด้านหนึ่งของวัตถุมงคลที่คุณค่าทางศิลปะไปไม่ถึง พลังเหนือธรรมชาติเหล่านี้ เกิดได้ด้วยศรัทธา ศรัทธาที่ได้เห็นหรือเชื่อมั่นในกระบวนการ พิธีกรรมที่เข้มขลัง พิธีกรรมที่เข้มขลังมิได้มาจากเครื่องสังเวยราคาแพงแต่มาจากเจตนาและความตั้งใจของพระเกจิอาจารย์แต่ละรูป ตลอดทั้งคณะผู้สร้างแต่ ละคณะ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ มีอยู่ในวัตถุมงคลชุด“จินดามณี มีสุข” วัตถุมงคลที่หลวงปู่สุข สุขเปโม ให้ความสำคัญและตั้งใจทำกันอย่างเต็มที่ พระผงยาจินดามณีที่เป็นพระผงยาจินดามณีที่แท้จริง มิใช่เป็นเพียงการนำผงยาจินดามณีมาสร้างเป็นองค์พระโดยไม่มีความรู้ในศาสตร์นั้นอย่างแท้จริง แฟนพันธุ์แท้ผงยาจินดามณี เพียงแค่ได้กลิ่นก็รับรู้ได้ว่าใช่จินดามณีต้นตำรับหรือไม่ เมื่ออาจารย์สีหวัชรกล่าวถึงพระคาถาที่ใช้ปลุกเสกพระผงยาจินดามณี หลวงปู่สุข สุขเปโม ก็บอกว่าบทนี้ท่านเคยใช้มาก่อน ดังนั้น จึงต้องสรุปว่าพระขุนแผนเนื้อผงยาจินดามณี หลวงปู่สุข สุขเปโม เป็นพระขุนแผนเนื้อผงยาจินดามณีที่เป็นพระผงยาจินดามณีแท้ๆ จะสรุปเป็นอย่างอื่นไม่ได้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น